สังเกตได้ว่าช่วงนี้ หลาย ๆ คน มักให้ความสนใจกับการโหยหาและคิดถึงความหลังวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น Y2K, ภาพยนตร์ รวมถึงผลงานเพลง ในยุคก่อน ที่กลับเข้ามามีบทบาทกับเหล่าวัยรุ่น Gen Z  ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ค่ายเพลง “Sony Music Entertanment Thailand” ก็ได้นำความคลาสสิคนี้ส่งตรงถึงแฟนเพลง ด้วยการฉลองครบรอบ 30 ปี ค่ายเพลง“Bakery Music” (เบเกอรี่ มิวสิค) กับโปรเจกต์ “Back To The Bakery Vol.1” ที่รวมเพลงดังเพลงฮิตของศิลปินรุ่นใหญ่ เพื่อเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ ซึ่งได้ศิลปินยุคใหม่มาช่วยทำให้เพลงฮิตเหล่านั้นมีสีสันยิ่งกว่าเดิม หลังกระแสดีเกินคาดกับโปรเจกต์ “Back To The Bakery Vol.1” ค่ายเพลง“Sony Music Entertanment Thailand” ผุดไอเดียสุดล้ำจับมือกับค่ายเพลง “DOJO CITY” อีกหนึ่งค่ายเพลงในตำนานที่มีศิลปินตัวท็อปอย่าง Triumphs Kingdom , Project H, Mr.Sister และอีกมากมาย ซึ่งในโปรเจกต์ครั้งนี้ ทางค่ายเพลง Sony Music Entertanment Thailand ได้หยิบเอาเพลงฮิตของ DOJO CITY มาสร้างสรรค์ใหม่ผ่านโปรเจกต์ “DOJO CITY 2024” ที่จะพาคนไม่ทันกระแส DOJO CITY ได้เข้ามาสัมผัสกับเสน่ห์เพลงป็อปในยุคนั้นที่เคยสร้างปรากฏการณ์เพลงวัยรุ่นที่มีเสียงร้องแบบเด็กสาวข้างบ้าน ทำให้เกิดกระแสแฟชั่นสายเดี่ยว การเดินเที่ยวสยามสแควร์ การมาของนิตยสาร Katch และความทรงจำอื่น ๆ ที่แสนสดใสในยุคนั้น ทำให้ DOJO CITY กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมป็อปสำคัญของวัยรุ่นไทยปลายยุค 1990s ถึงต้นยุค 2000s ซึ่งความน่าสนใจของ “DOJO CITY 2024” คือการได้ร่วมงานกับศิลปินยุคใหม่ที่จะมาถ่ายทอดความสดใสได้แก่ KIKI ร่วมงานในเพลง อยู่นาน ๆ อีกนิด, PiXXiE ร่วมงานในเพลง ล่ำบึก, VINI ร่วมงานในเพลง ไปพัก, Percy ร่วมงานในเพลง ฝันร้าย, YONLAPA ร่วมงานในเพลง จินตนาการ, _less ร่วมงานในเพลง อยากได้ และ Montonn Jira ร่วมงานในเพลง รักเถอะ จึงออกมาเป็น “DOJO CITY 2024” อัลบั้มรวมเพลงจากค่าย DOJO CITY สะท้อนถึงซาวด์ใหม่ ๆ ของคนยุค 2024 ที่ทำมาเพื่อวัยรุ่นยุคนี้จริง ๆ และโปรเจกต์นี้ยังได้พ่อมดแห่ง DOJO CITY ตัวจริง อย่าง Mr. Z หรือ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ มาเป็นที่ปรึกษาด้านเพลงให้อัลบั้มนี้อีกด้วย               ในส่วนคอนเซ็ปต์ ยังคงมีความเป็น DOJO CITY อยู่ ซึ่งพรีเซนต์ความสดใหม่ผ่านแนวดนตรีสนุกสนานที่สามารถร้องตามและเต้นรำได้พร้อม ๆ กัน รวมถึงแนวเพลงช้าซึ้ง ๆ ก็จะเป็นความซึ้งที่กินใจคนฟังแน่นอน รวมถึงภาพปกของอัลบั้ม ที่ได้แรงบันดาลใจจากห้องนอนของเด็กสาวในช่วงปี 1990s -2000s ต้น ๆ ยุคที่ยังไม่มี Social Media ที่ยังฟังเพลงผ่านคลื่นวิทยุ นอนอ่านนิตยสาร คิดถึงใครก็ส่ง sms หากัน ว่าง ๆ ก็เปิดคอมพิวเตอร์เล่นเน็ต ในส่วนของมิวสิกวิดิโอประกอบเพลงก็ได้แรงบันดาลใจจากเกมเต้นในสมัยนั้น พร้อมออกแบบคาแรคเตอร์ให้เข้ากับแต่ละเพลงแต่ละมู้ด เพิ่มความเพลิดเพลินเติมเต็มอรรถรสตลอดการฟังแน่นอน

P6ICK หนึ่งในสมาชิกของ ‘DieOut’ ซึ่งถือเป็นกลุ่มแร็พเปอร์รุ่นใหม่ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในวงการฮิปฮอปของไทย โดดเด่นด้วยสไตล์การแร็พที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร และมีเพลงฮิตติดชาร์จที่มียอดวิวกว่าล้านครั้งบน YouTube (@P6ICK) ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในแร็พเปอร์ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวงการเพลงไทย นอกจากพรสวรรค์ทางด้านดนตรีที่โดดเด่น P6ICK ยังเคยเข้าร่วมรายการ Show Me The Money เพื่อแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริง ปัจจุบัน P6ICK ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ ประสบการณ์ใหม่ ให้กับตัวเอง ด้วยการทำผลงานเดี่ยว และเข้าร่วมรายการ Rap Battle น้องใหม่อย่าง “Another World” ในฐานะคณะกรรมการตัดสิน และล่าสุดกับผลงานเพลงใหม่ ‘TONY’ เพลงเปิดตัวในสไตล์แร็ปอันโดดเด่น และแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของ P6ICK โดยเพลงนี้เป็นความร่วมมือครั้งใหม่ของเขา กับ Sony Music เพื่อให้แฟนๆ ได้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตของเขาในอุตสาหากรรมเพลงไทย ติดตาม P6ICK พร้อมอัปเดตผลงานใหม่ๆ ของเขาได้ที่ YouTube (@P6ICK) และ Instagram (@P6ICK)  ผลงานและความตั้งใจของ P6ICK ยังคงเป็นเข้าถึงผู้ชมและกลุ่มแฟนคลับได้อย่างต่อเนื่อง และ P6ICK คือศิลปินที่จะเป็นอนาคตของวงการฮิปฮอปไทยอย่างแท้จริง!

SUMDONG อดีตหนึ่งในสมาชิกค่าย High Cloud ที่โดดเด่นทั้งเรื่องพรสวรรค์ เอกลักษณ์ในการแร็พ ไรห์มที่อัดแน่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงบนเวทีที่ทำให้ผู้ชมไม่สามารถละสายตาได้ ทำให้เขาสามารถคว้าตำแหน่ง ผู้ชนะจากการแข่งขัน Rap Battle “Another World” มาครองได้สำเร็จ ชัยชนะในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้สปอตไลท์ในวงการฮิปฮอปไทยหันมาที่ SUMDONG เพิ่มมากขึ้น ล่าสุด SUMDONG ปล่อยผลงานโปรเจกต์ใหม่ของเขากับ Sony Music โดดเด่นด้วยท่อนแร็พไซเฟอร์ติดหู ที่เปรียบเสมือนบทนำให้แฟนๆ ได้อินไปกับอัลบั้มใหม่ของ SUMDONG ที่กำลังจะปล่อยเร็วๆ นี้ การเปิดตัวครั้งแรกภายใต้ Sony Music นอกจากจะช่วยให้ SUMDONG ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านดนตรีอย่างแท้จริงแล้ว ยังถือเป็นเริ่มต้นเส้นทางอาชีพอันน่าตื่นเต้น และเป็นการกำหนดเส้นทางของแร็พเปอร์สาย Chyperlogy คนนี้ ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไดนามิก และแสดงถึงตัวตนของ SUMDONG ได้เป็นอย่างดี ติดตามผลงานใหม่จาก SUMDONG ภายใต้สังกัด Sony Music เร็วๆ นี้ รับรองว่าวงการฮิปฮอปไทยจะต้องสั่นสะเทือน!

“Bakery Music” (เบเกอรี่ มิวสิค) ค่ายเพลงทางเลือกในตำนาน ที่ยังคงอยู่ความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ถึงจะปิดตัวลงแต่เพลงของค่ายนี้ก็ยังคงฮิตตลอดกาลและก็มักจะอยู่ในพาร์ทใดพาร์ทหนึ่งในชีวิตคนฟังเสมอ และในปี 2024  ค่ายเพลง“เบเกอรี่ มิวสิค” มีอายุครบรอบ 30 ปีเต็ม ทางค่ายเพลง “Sony Music Entertanment Thailand” จึงอยากฉลองการครบรอบครั้งนี้ ด้วยอัลบั้มสุดพิเศษ “Back To The Bakery Vol.1” รวมเพลงดังเพลงฮิตของศิลปินรุ่นใหญ่ เพื่อเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ ซึ่งได้ศิลปินยุคใหม่ อาทิ YEW, PURPEECH, SHERRY, LANDOKMAI, Television Off, SAMMii, Rosalyn, Alec Orachi และ Ford Trio มาร่วมตีความเพลงฮิตในมุมมองใหม่ ที่จะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปในช่วงความทรงจำนั้น กับเวอร์ชั่นที่ทั้งสดและใหม่กว่าเดิม ในอัลบั้ม “Back To The Bakery Vol.1” นี้ ถูกดีไซน์ภาพปกอัลบั้มที่มีกลิ่นไอของยุค 90s – 2000s ซึ่งรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในยุคนั้นไว้ในภาพปก ไม่ว่าจะเป็น เพจเจอร์ ทามาก๊อจจิ รูปสติ๊กเกอร์ วอคแมน และยังมีอัลบั้มรวมเพลงของ Bakery มาไว้ในนั้นอีกด้วย เรียกได้ว่าตรงรุ่นสุด ๆ สำหรับใครที่ทันในยุคนั้น  โดยในอัลบั้มนี้ประกอบไปด้วย 9 เพลงฮิตคุ้นหู เริ่มจาก   “สิ่งที่ไม่เคยบอก” ที่ถูกตีความใหม่โดย “Television Off” ซึ่งทางวงได้ผสมผสานดนตรีออกมาในสไตล์ของวงอย่างจัดเจน โดยมีการเพิ่มเสียงกีตาร์เข้าไปเพื่อตอกย้ำความเศร้าที่มากกว่าเดิม และเพิ่มความรู้สึกอึดอัดยิ่งขึ้นกว่าต้นฉบับที่เป็นของวง “Moderndog” ศิลปินอัลเทอร์เนทีฟในตำนาน  “ดินแดนแห่งความฝัน” เพลงต้นฉบับเป็นของ “Soul After Six” ในเวอร์ชั่นของ “SAMMii” ถูกถ่ายทอดด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมตั้งแต่คำแรกที่ร้อง และน้ำเสียงเอกลักษณ์ของแซมมี่ ที่ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความรักในทุกคำที่เธอเปล่งออกมาเลย แซมมี่เลือกเพลงนี้เพราะเนื้อเพลงสื่อถือความรักในแบบของผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจโลก เข้าใจความรักในระดับหนึ่งแล้ว  “สัมพันธ์” เพลงต้นฉบับเป็นของวง “Pause” ที่ได้ศิลปินอินดี้มาแรงอย่าง […]

ซิงเกิลล่าสุดของ temp. “WHAT A PERFECT SEASON TO CRY” เชิญชวนทุกคนเข้าสู่โลกแห่งอารมณ์ที่ใคร ๆ ก็อาจจะจะเคยผ่านเรื่องราวและอารมณ์แบบนี้มาก่อน “WHAT A PERFECT SEASON TO CRY” พูดถึงความโศกเศร้าและการยอมรับ โดยชื่อเพลงงก็บ่งบอกว่าการแสดงอารมณ์ของเราเป็นเรื่องปกติ วง temp. ได้ผสานเนื้อร้องและทำนองเข้าด้วยกันอย่างดี กลายเป็นเพลงที่สะท้อนความเรียบง่ายแต่ยังมีความเป็นเอกลัษณ์ของวงอยู่ และการเรียบเรียงเพลงที่มีความนุ่มนวลแต่ผสมโน้ตเปียโนที่เค้นอารมณ์ ยิ้งเน้นย้ำใจความของเพลงนี้และความรู้สึกหวานอมขมกลืนไปพร้อม ๆ กัน บางครั้งการเตรียม “เสื้อกันฝน” ไว้ก็ดี ซึ่งเสื้อกันฝนในเพลงนี้ก็เป็นการอุปมาของความพร้อมที่จะรับมือฝนที่ตกลงมา หรืออารมณ์ของเราที่พร้อมจะแตกสลายในทุกวินาที เป็นการบอกว่าการหลั่งน้ำตาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และบางครั้งฤดูกาลที่ดีที่สุด อาจจะเป็นฤดูกาลที่เรายอมให้ตัวเองได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเรา ผลงานของ temp ชิ้นนี้ได้พูดถึงแก่นของการใช้ชีวิตอยู่กับความรักที่ไม่สมหวัง และการมองความเศร้าโศกในแง่ดี ออกมาได้อย่างสวยงาม